<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<<000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000000

หมอวิเศษ ตามรูปด้านบนนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เล่า แต่เป็นหมอวิเศษชาวกระเหรี่ยง หรือที่เรียกกันว่า ปอกะญอ แกหน้าเหมือนท่านนายกทักษิณมาก และเป็นที่นับถือและหลงไหลในความสามารถด้านการรักษาโรค ตลอดจนโชคลาภ ล่าสุดถูกตำรวจจับด้วยข้อหา ฉ้อโกงและหลอกลวงประชาชน ถูกศาลตัดสินไป 6 ปี ป่านนี้คงจะออกมาแล้ว แต่จะไปแสดงความสามารถพิเศษ ชนิดลอกเลียนได้ ที่ไหนยังไม่ได้ข่าว

กราบขออภัย--รูปที่ขึ้นไว้นี้ผมถูกหลอกอยู่นานหลายเดือน เพราะความจริงเป็นรูปที่ถูกแต่งขึ้นเพื่อให้หน้าเหมือนใครบางคน ที่เป็นศัตรูกับพวกเขา เราคนเสพข่าวก็เลยตกเป็นเหยื่อและอาจต้องขึ้นศาลไปกับเขาด้วย จึงเตือนกันมาเรื่องการเสพย์ข่าว


หมอวิเศษ

20 กรกฎาคม 2550

ช่วงนี้ใช้เวลาพาญาติ ๆ ไปหาหมอวิเศษเรียกได้ว่าวันเว้นวัน หมอคนนี้ดูเผิน ๆ ก็ไม่มีอะไรพิเศษกว่าหมอผีหมอพระคนอื่น ๆ แต่ที่แปลกก็คือ คนที่ได้รับการรักษาแล้วเกิดหายจากอาการที่เป็นอยู่ มีอาการแบบเดียวกัน คือปวดตามข้อ ตามกล้ามเนื้อต่าง ๆ ล้วนเป็นญาติสนิทของผมทั้งนั้น การรักษา ก็เป็นการรักษาแบบกายภาพ ไม่ได้กินยาอะไร เพราะถ้าเป็นการกินยา ก็จะอ้างว่าเป็นยาประเภท สเตลิลอย ที่ให้ผลแบบทันอกทันใจ ผมรู้ดีในเรื่องนี้ เพราะตัวเองเป็นโรคเก๊า เวลาเป็นทีปวดขาจนเดินไม่ได้ ซึ่งปกติก็จะแก้ด้วยการเปลี่ยนแปลงการกินอาหาร และกินยาลดกรดยูลิค แต่ถ้าจำเป็น เพราะต้องเดินทาง หรือทำงาน ไม่สามารถพักผ่อนได้ ผมก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอก็จะจัดการฉีดยาให้เข็มเดียว ฉีดยาเสร็จนับหนึ่งถึงร้อย อาการปวดที่เป็นมาร่วมอาทิตย์ก็จะหายทันที เพราะฤทธิ์ยาสเตลิลอย ซึ่งหมอบอกว่าเป็นยาอันตราย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ เพราะถ้าใช้ไปนาน ๆ บ่อย ๆ อาจต้องกลายเป็นคนไข้โรคไต ต้องไปนอนเข้าคิวคอยฟอกเลือด เป็นประจำอาทิตย์ละวันหรือสองวัน หรือสามวัน แล้วแต่อาการ ซึ่งเป็นสภาพที่ดูจะแย่เอามาก ๆ

ญาติคนแรกที่เข้าไปหาหมอวิเศษคนนี้คืออาเนตรเขาเกิดอาการผิดปกติที่หน้าอกหลังออกกำลังกาย ก็เลยไปหาหมอประจำตัวที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ หมอใจดีบอกว่าไม่เป็นไร ทำบัลลูนครั้งเดียวก็หาย จะหาคิวให้ นัดว่าจะทำประมาณ 20 วันหลังจากไปตรวจ คนที่บ้านได้ยินว่าคนอายุ 80 ต้องทำบัลลูนก็เกิดความเป็นห่วง โดยเฉพาะเจ้าตัว เกิดอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด

แต่จังหวะนี้เองก็มีชายคนหนึ่งเป็นลูกชายของหุ้นส่วนบริษัทที่ครอบครัวเราถือหุ้นอยู่ เขาพบกับอาเนตร ในวันประชุมแบ่งเงินปันผลของบริษัท แกก็ทักว่าหน้าตาอาเนตรไม่ปกติ คงมีอาการป่วยเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนโลหิต ได้ฟังแค่นี้อาเนตรก็บอกเขาไปว่า หมอนัดจะผ่าหัวใจเดือนหน้า แกก็เลยนัดให้อาเนตรไปหาที่บ้านในวันรุ่งขึ้นเพื่อเสนอการรักษาแบบโบราณ ที่เรียกว่า จัดระบบหมุนเวียนโลหิตและลมปราณ

อาเนตรก็ไปตามที่หมอจีนเขานัดโดยหนูเปี๊ยกลูกสาวสุดรักเป็นคนพาไป มีเพื่อนของหนูเปี๊ยก ที่น้ำหนักประมาณ 100 กก.ตามไปด้วย บ้านของหมออยู่ ฝั่งธนในย่านคนโบราณ เป็นบ้านไม่เก่าสองชั้น ปลูกอยู่บนพื้นที่ 50 ตารางวามีต้นไม้เล็กใหญ่รกรุงรังเต็มไปหมด เห็นบ้านแล้ว แกคงมีปัญหากับเพื่อนบ้านแน่นอน เรื่องต้นไม้ เรื่องหมาแมว ที่แกเลี้ยงไว้ แกอยู่กับเมีย และลูก ๆ ที่เป็นหนุ่มแล้วอีกสองคน แก่เล่าว่าพ่อของแกอายุ 100 พอดีแต่จากไปเมื่อปีที่แล้ว พ่อของแกนี้เป็นเพื่อนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทประเสริฐกิจของลุงเกษม พี่ชายคุณพ่อผม เราคนจีนรู้จักกัน เพียงเท่านี้ก็สามารถแสดงความเป็นญาติโดย ไม่เขิน และเป็นกันเองโดยทันทีl

วิธีรักษาของแกก็เป็นแบบหมอนวดแผนโบราณทั่ว ๆ ไป จะมีพิเศษหน่อยก็ตรงที่แกเอาเครื่องกระตุ้นผ่าเท้าผ่ามือด้วยไฟฟ้ามาใช้ด้วย แกบอกว่า ไว้ให้คนป่วยใช้เวลาที่นั่งรอแกตอนแกพัก หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ จะได้ไม่เสียเวลา แกจัดการนวดทั้งตัวอาเนตรเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ค่อย ๆ นวดไล่จากหัวจนถึงปลายเท้าปลายมือ ขณะที่นวดก็คุยกันไปเรื่อย ๆ มีบางช่วงแกก็ท่องบทสวดตามไปด้วย โดยบอกว่าเป็นคาถาสมเด็จอาจารย์โต พรหมรังสี อาจารย์ผู้โด่งดังจากเรื่องนางนาก นวดเสร็จก็ลาโดยให้เงินเป็นค่าบริการ 1000 บาท แล้วนัดว่า ให้มานวดใหม่ในวันมะรืนนี้ ให้ไปพักผ่อน 1 วัน หมอคุยกว่า นวดแบบนี้ 5 ครั้งรับรองว่าไม่ต้องไปที่โรงพยาบาลแน่นอน แต่ย้ำว่าต้องดื่นน้ำมาก ๆ อย่างน้อยวันละ 6 ลิตร เพื่อช่วยทำให้ร่างรายสดชื่น และน้ำจะช่วยระบายของเสียออกไป ซึ่งผมก็รู้สึกว่า ของดีก็คงถูกระบายออกไปด้วย ถ้ากินน้ำกันวันละ 10 ลิตร ตามที่หมอแกบอกว่าดี

กะว่าจะกลับอยู่แล้ว คุณเปี๊ยกก็ถามหมอว่า ผู้หญิงที่น้ำหนักเกือบร้อยที่ไปด้วย เขามีอาการแขนซ้ายล๊อกไม่สามารถยกแขนเกินกว่าไหล่ ทำให้ปวดมากเวลาพยายามจะใส่เสื้อหรือถอดเสื้อ อยู่ในสภาพนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว หมอแกมอง แล้ว ก็บอกว่ารักษาวันนี้เลยก็แล้วกัน แล้วก็จัดที่ให้น้องอ้วนนอนคว่ำ หมอแกก็ลงมือเหมือนกับที่ทำกับอาเนตร ระหว่างที่นวด น้องอ้วนเขาก็ร้องครางเป็นระยะ อย่างมีความสุข ด้วยเสียงเพลง โอ๊ย โอ้ย โอ๊ย ผ่านไปสองชั่วโมง หมอก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ส่วนน้องอ้วนก็ลุกขึ้นนั่ง แล้วก็น้ำตาไหล คุณเปี๊ยกก็เลยถามว่าเป็นอะไรหรือ แกก็โผเข้ากอดคุณเปี๊ยกบอกว่า อาการที่แกเป็นมา 10 ปีตอนนี้หายแล้ว แล้วก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวให้ดู คุณเปี๊ยกซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับน้องอ้วนตั้งแต่เด็ก รู้เห็นอาการเจ็บปวดของน้องอ้วนมาตลอดเวลา ก็พลอยน้ำตาไหลไปด้วย พอหมอเดินกลับเข้ามา หนูอ้วนก็ เข้าไปกราบเท้า แล้วกล่าวคำขอบคุณหมอเป็นการใหญ่ จนลืมจ่ายค่านวดให้หมอในวันนั้น ใครจะใช้วิธีนี้น้องอ้วนเขาไม่สงวนนะ แต่ต้องระวัง เพราะเวลาไปนัดขอเวลาให้แกรักษา แกจะบอกว่า ไม่ว่าง ก็เป็นได้

กลับถึงบ้านอาเนตรก็เข้านอนตามเวลาที่เคยทำ ปรากฏว่าตอนเช้าอาเนตรบอกกับคุณเปี๊ยกว่า อาการทั่ว ๆ ไปดีกว่าปกติ ราวกับว่า ย้อนไปได้สัก 10 ปี โดยเฉพาะเรื่องขับถ่าย ดีจริง ๆ

ข่าวเรื่องหมอวิเศษนี้รู้ไปถึงเชียงใหม่ในเช้าวันนั้นเอง คุณแม่และน้องหมวยฟังแล้วก็ทึ่ง จัดการจองตั๋วเครื่องบินมากรุงเทพทันทีแล้วก็พากันไปหาหมอวิเศษ คุณแม่ซึ่งเป็นผู้ชำนาญเรื่องหมอพระหมอผีหมอนวด ตลอดจนหมอสะเต็มเซล และนาโน เอ่ยปากชมทันทีเมื่อได้รับการบริการ โดยยอมรับว่าหมอดีจริง ๆ อาการที่เคยเดินแบบท่าจะไม่ไหวต้องมีคนคอยจูง กลับกลายเป็นเดินแบบมีความมั่นใจ สามารถขึ้นกระไดด้วยตัวเอง ทีเดียว 10 ขั้นซึ่ง 5ปีที่ผ่านมาไม่เคยเป็นเช่นนี้

เรื่องราวของน้องอ้วน อาเนตร และคุณแม่ ทำให้ซ้อลั้ง พี่ใหญ่ พี่ยา อยู่เฉยไม่ได้ รีบจัดการจองคิวทันที หมอแกก็ใจดี บอกว่า เนื่องจากเป็นปีมหามงคล และโอกาสอันดี จึงยอมให้บริการอย่างเต็มที ทีเดียว 4 คน ซึ่งปกติแกจะรับเพียงวันละ 2 รายเท่านั้น ซ้อลั้งเขาอาการไม่มาก นิ้วมือด้านซ้ายมีอาการล๊อก ขยับไม่ได้ แล้วก็ปวดตอนเช้า ๆปรากฏว่า รักษาครั้งเดียว หายปวด แต่ยังไม่หายล๊อกต้องไปหาอีก 3 ครั้ง ส่วนพี่ใหญ่นั้น อาการหนักเพราะข้อเข่าเสื่อม กำลังจองคิวจะเข้าเปลี่ยนข้อเข่าที่โรงพยบาลวิชัยยุทธ ส่วนพี่ยา อาการปวดเมื่อยแบบพวกวัยทองทั้งหลาย ซึ่งปรากฏว่า เพียงผ่านการนวด 2 ชั่วโมง ทั้งพี่ใหญ่และพี่ยา อาการหายเป็นปิดทิ้ง ท่ามกลายสายตาของ ลูกทั้งสองคนที่พึ่งกลับจากเมืองนอกกะจะดูแลคุณพ่อว่าเปลี่ยนเข่าใหม่เป็นอย่างไร จะได้มาเปลี่ยนบ้างในภายหลัง พวกเราทั้งหมดต่างก็ดีใจ เพราะไม่นึกว่าอาการเจ็บปวดของพวกเรา ซึ่งเป็นกันมานาน จะหายกันง่าย ๆ แบบนี้ โดยเสียค่านวดเพียงครั้งละ พันบาทเท่านั้น ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับต้องไปผ่าตัดที่โรงพยาบาล หรือไปซื้อยาจีนแพง ๆ ที่เมืองจีนมากิน โดยตอนหลังนี้มีการจับได้ว่ายาจีนพวกนี้มีการแอบใส่สะเตลิลอย ทำให้ได้ผลแบบทันใจเวลากินเข้าไป

ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไว้จะเล่าให้ฟังต่อก็แล้วกัน หรือ เมล์ไปถามก็ได้

02/08/07

mail ถึงเมืองหนังสือ

กลับไปหน้าแรก